ในประเทศมีกี่บริษัทที่ทำกุญแจ

4รู้ 2สร้าง 1ทำ >> ก่อนเริ่มอาชีพ“ช่างกุญแจ”

 

ข้อ 3 สิ่งที่ควรรู้ คือ คุณรู้หรือไม่ว่า ในประเทศไทย

มีโรงงานผลิตดอกกุญแจกี่โรง เรื่องนี้สำคัญมาก เปรียบเสมือนการเลือก

ใช้สินค้าที่ไหน เพราะะโดยปกติ แล้วกุญแจแต่ละโรงงานไม่เท่ากัน

ต่างกันเล็กๆน้อยๆ หนา บาง ความแข็ง ความทน ลายกุญแจ

แต่สุดท้าย

คนส่วนใหญ่มักจะเลือกโรงงานที่ มีบริการส่งถึงที่

ใหติดเงิน หรือ เครดิต มีรายรูปแบบ แต่คนส่วนใหญ่ลืมคิดถึง

คำว่ามาตตฐาน ความแข็งแรงของดอกกุญแจที่จะให้ลูกค้า

ปกติกุญแจที่ดีเวลางอ แล้วจะบิดกลับมาได้

แต่ถ้างอแล้วบิดกลับ แล้วหักแสดงว่ากุญแจนั้น

มีความแข็งมากเกินไป ไม่มีความยืดยุ่น

ยกตัวอย่างเช่น

โรงานที่ 1อยู่ในประเทศไทย

เป็นโรงานที่ใหญ่มาก เปิดมาอาจจะมากกว่า 40-50 ปี

มีกำแพงที่สูง เหมือนคุกบางขว้าเลย อยู่แถวศรีนคริน

โรงงานนี้ งานดีแต่ไม่มีเซลวิ่งส่งของให้ลูกค้าตามต่างจังหวัด

แล้วที่สำคัญ มาตรฐานกุญแจดีมาก เน้นส่งออกนอก

เป็นธุรกิจในครอบครัว

โรงงานที่ 2 เป็นโรงานพี่น้องกันกับโรงงานที่ 1

อันนี้ขอบอกเลยว่า ดอกกุญแจลายสวยมาก ดูเรียบๆหรูๆ

เนื้อกุญแจดีมากๆ มาตรฐานสูงสุด เน้นส่งออก บรูไน ออสเตเลีย

เป็นโรงงานผลิตเครื่องทำกุญแจยี้ห้อ KEY KING

เครื่องทำกุญแจของไทย

แต่น่าเสียดาย เพราะด้วยเครื่องของจีนราคาถูก

จึงทำใหเครื่อง KEY KING หยุดการผลิต

และที่สำคัญ เจ้าของโรงงานนี้ เป็นผู้ที่ตั้งชื่อ KEY WORLD

ให้กับ บริษัท KEY WORLD เพราะเป็นอาจารย์ ของผมผู้เขียนเอง

โรงงานที่ 3 เป็นอีกโรงที่ถือว่ายุคๆหนึ่ง รุ่งเรืองมาก

เพราะดอกกุญแจถูก มีการปล่อยเครดิตใหช่างกุญแจทั่วประเทศ

เมือราว 30 ปี ที่แล้ว

เจ้าของโรงงานใจดี อารมณ์ดีด้วย เคยเจอแค่ครั้งเดียว

แต่ถ้านับกันในวงการแล้วเขาคือ เพื่อนของ อาจารย์ หรือ

เรียกว่า เฮียธง สะพาน 2 แถวๆตอกจัน

ขยายความอีกเล็กน้อย เฮียธงเป็นอาจารย์ ของเฮียเล็ก

และ เฮียเล็ก เป็นอาจารย์ของ อาจารย์ คมเดช อุดมยิ่งมงคล

(ผู้เขียนเอง)

โรงานสุดท้าย คือ โรงงานที่ 4 เป็นอีกโรงงานที่มีจุดเริ่มต้นคล้ายๆ

โรงงานที่ 3 เพราะว่าไม่ได้เป็นช่างกุญแจเหมือนโรงงานที่ 1-2

ด้วยความที่เป็นช่างกลึง จึงมีความสามารถในการสร้างดอกกุญแจได้

และเข้าในวงการกุญแจด้วยวิธีการที่ขายถูก ให้เครดิต จนปัจจุบัน

มีการขายดอกกุญแจ มีฐานลูกค้ามากขึ้น และที่เหนือสิ่งอื่นใดเลยคือ

มีรถวิ่งไปทั่วไทย เน้นกลุ่มลูกค้าในประเทศ แต่ที่น่าแปลกคือ มีบางครั้งที่

กุญแจเป็นของโรงงานอื่นซึ่งก็ถือว่าแปลก เอาโรงงานอื่นมาขาย

แต่ขายแพ้กว่า 3 เท่า

และจุดเด่นอีกเรื่องคือ มีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

เครื่องมือประเภท กุญแจฝังชิพ กุญแจรีโมททั้งหลาย

ของดีคือทำให้วงการกุญแจมีสีสัน แต่ขายอย่างเดียวไม่มีการสอน

ทั้งที่ขายก็แพงแล้ว แต่ยังไม่สอนอีก ไม่มีการรับประกันสินค้า

ช่างกุญแจบ่นทั้งประเทศ แต่ก็ไม่มีทางเลือกมากนัก

จึงยอมๆไปเพราะเห็นว่าเป็นโรงงาน

โรงงานที่ 5 คือโรงงานที่มาใหม่ จริงๆก็ไม่ใช้โรงงานใหญ่โตอะไร

จริงๆต้องเรียกว่าเป็นบริษัทจะดีกว่า การทำงานคล้ายๆ บริษัท ไอโฟน

หรือ มิสทีน ที่ไม่มีโรงงาน เช่น

– ไอโฟน เขียนซอฟแวร์ แต่จ้าง ซัมซุงผลิตตัวเครื่อง

– มิสทีน คิดสูตรเครื่องสำอาง แต่จ้าง ยูนิริเวอร์ ผลิต

– โรงานที่ 5 คิดและออกแบบ และสั่งชิ้นส่วนมาจากหลายๆที่

ประกอบขึ้นเป็นเป้นเครื่องทำกุญแจ

เพราะการขยายกิจการภายใต้แนวคิดใหม่ คิดนวัตกรรมใหม่ๆ

เช่น เครื่องทำกุญแจ อุปกรณ์ช่างทำกุญแจ เครื่องมือต่างๆ

“เน้นการสร้าง มากกว่าการซื้อ” พยามสร้างช่างกุญแจที่เน้นการใช้เครื่อง

ที่ทำเองจนบ้างครั้ง อาจดูล้าหลัง และเน้นการถ่ายทอด รุ่นสู่รุ่น

เพราะไม่เน้นเครื่องมือที่ทันสมัย แต่จะเน้นเรื่องการขายสินค้าที่ถูกลิขสิทธิ

ที่เป็นของแท้ จึงทำให้เครื่องมือช่างกุญแจมีราคาสูงอาจทำให้คนที่มีทุนน้อย

ไม่สามารถเอื่อมถึงได้

แต่ในปัจจุบัน ก็เริ่มที่จะมีการ นำเข้า เครื่องมือจากจีน

ซึ่งก็เน้นเครื่องมือ ที่มีความสามารถเทียบเท่าของอิตตาลี แต่ยังคง

ไม่นำเข้าของเลียนแบบมาขายอยู่ดี

เพราะโรงงานที่ 5 คิดว่าการที่จะทำธุรกิจอย่างยั่งยืนได้นั้น

จะต้องใช้ของดี มีคุณภาพ เพื่องานที่มีคุณภาพ ในราคายุติธรรม

ส่วนเครื่องมือทำกุญแจที่ผลิตเองนั้นมีการนำเข้าอุปกรณ์

ที่มาจากหลายๆที่ เช่น อิตตาลี จีน ไทย เครื่องทำกุญแจ

ที่เปี่ยมด้วยพลัง และนวัตกรรมใหม่ๆจึงถือกำเนิดขึ้น

เครื่องทำกุญแจ TITAN GT3 PRO-Y ต่างจากเครื่องทำกุญแจเครื่องอื่นยังไง

“- เครื่องทำกุญแจที่มีส่วนคล้ายรถมอเตอร์ไซร์ DUCATI

หรือรถวิบาก ไม่มีแฟลิ่ง ที่เน้นลุยๆคล่องตัวน้ำหนักเบาเพียง 14 กก

– ใช้ระบบเพลาเหมือน VESPA จึงแรง แต่เงียบมาก

– เครื่องทำกุญแจที่มีขนาดเล็กแต่แรงเหมือนรถสปอตร์ BENZ SLK

– ทำงานพร้อมกันได้ 2 ข้าง ตัดกุญแจพร้อมกันได้ที่ละ 2 ดอก

– และอาจมีราคาแพงกว่าเครื่องจีน และ ไตหวัน ในบางรุ่น

– มีการรับประกันหลังการขายสูงสุด 5 ปี ทั้งระบบ

– มีบริการออนไซร์ นายด์ เซอร์วิส ซ่อมเครื่องทำกุญแจถึงที่ ต่างจังหวัดก็ไป

– ภายในระยะเวลารับประกันทั้งระบบ อะไหล่ทุกชิ้นส่วน 5 ปี

– และที่สำคัญมีบริการรับประกันในรูปแบบเดียวกับ

โทรศัพย์ไอโฟน นั้นคือการเปลียนเครื่องใหม่ทันที

ห่างเสียหายเกินกว่าจะซ่อม หรือ เรียกว่า change

จ่ายส่วนต่างเพียง 30% ของเครื่องทำกุญแจ ”

เร็วๆนี้เตรียมพบกับ TITAN NILD BLACK PRO-ll

เครื่องทำกุญแจใบเลื่อยตัวใหม่

คาร์ไบค์ด้านซ้าย และ ไฮสปีดคาร์ไบค์ด้านขวา

ทำงานพร้อมกันได้ 2 ข้าง ตัดกุญแจพร้อมกันได้ที่ละ 2 ดอก

 

หลักจากที่เครื่องทำกุญแจ KEY KING ได้หยุดสายการผลิต

เครื่องทำกุญแจ ของโรงานที่ 5 จึงผลิตเต็มตัว

และใช้ชื่อว่า TITAN GT3 PRO-Y และมีการผลิตเครื่องทำกุญแจ

ออกมาสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ

กลับมาสู่เรื่องดอกกุญแจทำไมโรงงานที่ 5 ถึงไม่ผลิตดอกกุญแจ

เหมือนโรงงานอื่นๆ แท้จริงแล้วมีความคิดว่าจะตั้งโรงงานผลิตดอกกกุญแจเอง

ในปี 2541- 2547 และ 2550

เพียงแต่ว่าความคิดที่ว่าหยุดลงด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง และมีการเปลียนแผนการตลาดโดยการสร้างแบรนด์ โดยใช้ระบบแฟรนไชส์ผสม

แฟรนไชส์ผสม คือการให้ใช้ แบรนด์ สินค้า เครื่องมือ และ พัฒนาฝีมือ

ให้ตามที่กำหนดมาตรฐานเอาไว้ จึงเน้นสร้างรูปแบบ และ เครื่องมือ

ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ส่วนเรื่องดอกกุญแจ จะทำหรือไม่ เป็นเรื่องของการต่อยอดธุรกิจคิดว่าคงไม่ทำเพราะ

เรื่องของความรู้คุณ และ กตัญญู ซึ้งบางครั้งไม่มีแล้วก็ได้ธุรกิจระบบทุนนิยมสมัยนี้

 

“ความรู้สึกส่วนตัว ของโรงงานที่ 5

คิดว่าควรจะอยู่ในตำแหน่งของการ

ส่งเสริม เกื้อกูล และ เกื้อหนุน สิ่งที่ดีกว่า

ดอกกุญแจที่ดีกว่า ซึ่งมีอยู่แล้ว

โรงงานที่ 2 ยังเป็นผู้หผลิตเครื่องทำกุญแจ

KEY KING ยังไงๆก็เป็น KING OF THE KEY

เพราะเจ้าของโรงงานที่ 2 เป็นคนใจกว้าง มีน้ำใจ และ

ถือเป็นเซียนกุญแจอันดับ 1 ของไทยในสมัย 40 ปีที่แล้ว หรือ ปี 2520 ”

 

ปัจจุบันโรงงานที่ 5 สั่งกุญแจโรงงานที่ 2

โดยการเอาดอกกุญแจของโรงงานที่ 2

ซึ่งมีความมาตรฐานส่งออกนอกสั่งมาใช้ และ จัดจำหน่าย

95% เป็นดอกกุญแจของไทย ของโรงานที่ 2

4%   เป็นของอิตตาลี แพงที่สุด และ ดีที่สุด

1%   เป็นของนำเข้าจากจีน

ปัจจุบัน โรงงานที่ 5 ได้มีการ นำเข้าเครื่องทำกุญแจทำกุญแจฝังชิพจากหลายๆประเทศ

และมีการสอนการใช้งานอย่างกว้างขวาง จึงเป็นการ เติมเต็มส่วนที่ยังไปต่อถึงจุดสูงสุดได้อีก

“ที่พูดมาทั้งหมดนั้น โรงงานที่ 5 คือ บริษัท KEY WORLD”